โลโก้ มูลนิธิถันยรักษ์มูลนิธิถันยรักษ์

นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

มูลนิธิถันยรักษ์ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เคารพความเป็นส่วนตัวด้านข้อมูลส่วนบุคคล (“Personal Data”) มูลนิธิถันยรักษ์ฯ มุ่งมั่นที่จะปกป้องความเป็นส่วนตัวของบุคคล โดยนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ อธิบายถึงการเก็บรวบรวม การนำไปใช้ เปิดเผย การลบ หรือการทำลายข้อมูลส่วนบุคคล และมูลนิธิถันยรักษ์ฯ จะดำเนินมาตรการที่เข้มงวดในการรักษาความมั่นคงปลอดภัย ตลอดจนการป้องกันมิให้มีการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้โดยมิได้รับอนุญาตก่อน พร้อมแจ้งสิทธิภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ในกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่บังคับใช้ มีมาตรฐานในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่สูงกว่าที่ระบุไว้ในนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ ให้ถือเอาข้อกำหนดตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวนั้นเป็นหลัก ในกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่บังคับใช้มีมาตรฐาน ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ด้อยกว่าที่ระบุไว้ในนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ ให้ถือเอานโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้เป็นหลัก

มูลนิธิถันยรักษ์ฯ เคารพสิทธิความเป็นส่วนตัวและให้ความสำคัญต่อการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องหรือทำธุรกรรมกับมูลนิธิถันยรักษ์ฯ จึงได้จัดทำนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ขึ้น เพื่อให้มีหลักเกณฑ์ กลไก มาตรการกำกับดูแล และการบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคลอย่างชัดเจนและเหมาะสม ดังต่อไปนี้

1. ขอบเขตการบังคับใช้

นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ มีผลบังคับใช้กับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทุกคน ซึ่งหมายถึงเจ้าหน้าที่ประจำ เจ้าหน้าที่สัญญาจ้างงานแบบระบุระยะเวลาสิ้นสุดสัญญา เจ้าหน้าที่ชั่วคราว และผู้รับเหมา คู่ค้า ลูกค้า กรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนมูลนิธิถันยรักษ์ฯ เป็นต้น รวมถึงผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในนามมูลนิธิถันยรักษ์ฯ

2. คำนิยาม

2.1. “ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคล ซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ เช่น

  • ชื่อ-นามสกุล ชื่อเล่น
  • เลขบัตรประจำตัวประชาชน, เลขที่หนังสือเดินทาง, เลขประกันสังคม, เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร
  • ที่อยู่, อีเมล, เบอร์โทรศัพท์, ตำแหน่งงาน, หน่วยงาน
  • ข้อมูลอุปกรณ์หรือเครื่องมือ เช่น IP address, Cookie ID
  • ข้อมูล (Biometric) เช่น รูปภาพใบหน้า, ลายนิ้วมือ, ฟิล์มเอกซเรย์, ข้อมูลสแกนม่านตา, ข้อมูลอัตลักษณ์เสียง, ข้อมูลพันธุกรรม
  • ข้อมูลที่สามารถเชื่อมโยงไปยังข้อมูลข้างต้นได้ เช่น วันเกิดและสถานที่เกิด, เชื้อชาติ,สัญชาติ,น้ำหนัก,ส่วนสูง, ข้อมูลตำแหน่งที่อยู่, (location) ข้อมูลการแพทย์,ข้อมูลการจ้างงาน

2.2. “ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว” หมายถึง ข้อมูลที่เป็นเรื่องส่วนบุคคลโดยแท้ของบุคคล แต่มีความละเอียดอ่อนและอาจสุ่มเสี่ยงในการเลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม เช่น เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใด ซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด

2.3. “การประมวลผล” หมายถึง การดำเนินการเก็บรวบรวม การนำไปใช้ เปิดเผย การลบ หรือการทำลายข้อมูลส่วนบุคคล

2.4. “เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลธรรมดาซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่ข้อมูลส่วนบุคคลสามารถระบุตัวตนของบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม

2.5. “ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม การนำไปใช้ เปิดเผย การลบ หรือการทำลายข้อมูลส่วนบุคคล

2.6. “ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม การนำไปใช้ เปิดเผย การลบ หรือการทำลายข้อมูลส่วนบุคคล ตามคำสั่งหรือในนามของมูลนิธิถันยรักษ์ฯ ทั้งนี้ บุคคลหรือนิติบุคคล ซึ่งดำเนินการดังกล่าวไม่เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

3. การเก็บรวบรวม การนำไปใช้ เปิดเผย การลบ หรือการทำลายข้อมูลส่วนบุคคลอย่างจำกัด

มูลนิธิถันยรักษ์ฯ จะการเก็บรวบรวม การนำไปใช้ เปิดเผย การลบ หรือการทำลายข้อมูลส่วนบุคคล ของเจ้าของข้อมูลเพื่อประโยชน์ในการดำเนินงานของมูลนิธิถันยรักษ์ฯ หรือเพื่อปรับปรุงคุณภาพในการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และหรือเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อการดำเนินงานของมูลนิธิถันยรักษ์ฯ โดยมูลนิธิถันยรักษ์ฯ จะกระทำการดังกล่าว ตามระยะเวลาเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งเจ้าของข้อมูลหรือตามที่กฎหมายกำหนดไว้เท่านั้น

การเก็บรวบรวม การนำไปใช้ เปิดเผย การลบ หรือการทำลายข้อมูลส่วนบุคคล จะกระทำโดยมีวัตถุประสงค์ ขอบเขต และใช้วิธีการที่ชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรม โดยจะดำเนินการอย่างจำกัด เพียงเท่าที่จำเป็นภายใต้วัตถุประสงค์การดำเนินงานของมูลนิธิถันยรักษ์ฯ เท่านั้น อาจรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับเชื้อชาติ ศาสนา หรือปรัชญา ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ข้อมูลทุพพลภาพ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลชีวภาพ ความพิการ อัตลักษณ์ หรือข้อมูลอื่นใด ทั้งนี้ มูลนิธิถันยรักษ์ฯ จะดำเนินการขอความยินยอมจากบุคคลก่อน ตามแบบวิธีการของมูลนิธิถันยรักษ์ฯ หรือทางอิเล็กทรอนิกส์ เว้นแต่

  • เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวกับการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุ เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือเพื่อการศึกษา วิจัย การจัดทำสถิติ ซึ่งได้จัดให้มีมาตรการป้องกันที่เหมาะสม
  • เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
  • เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาของคู่สัญญา หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเข้าทำสัญญานั้น
  • เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบให้แก่มูลนิธิถันยรักษ์ฯ
  • เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของมูลนิธิถันยรักษ์ฯ หรือของบุคคล หรือนิติบุคคลอื่นที่ไม่ใช่มูลนิธิถันยรักษ์ฯ
  • เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ประมวลกฎหมายแพ่งและอาญา ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งและอาญา พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน หรือประโยชน์แก่การสอบสวนของพนักงานสอบสวน หรือการพิจารณาพิพากษาคดีของศาล เป็นต้น
  • เป็นกํารปฏิบตั ิตํามกฎหมําย เช่น พระรําชบญั ญตั ิคุม้ ครองข้อมูลส่วนบุคคล พระรําชบญั ญตั ิว่ําด้วย ธุรกรรมทํางอิเล็กทรอนิกส์ พระรําชบญั ญตั ิกํารประกอบกิจกํารโทรคมนําคม พระรําชบญั ญตั ิป้องกนั และปรําบปรํามกํารฟอกเงิน ประมวลกฎหมํายแพ่งและอําญํา ประมวลกฎหมํายวิธีพิจํารณําควํามแพ่ง และอําญํา เป็ นตน้
  • เป็นไปเพื่อประโยชน์แก่กํารสอบสวนของพนกังํานสอบสวนหรือกํารพิจํารณําพิพํากษําคดีของศําล
  • เพื่อประโยชน์ของท่ําน และกํารขอควํามยินยอมไม่อําจกระทําได้ในเวลําน้ัน
  • เป็นกํารจําเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมํายของบริษทั หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น ที่ไม่ช่บริษทั
  • เป็นกํารจําเป็นเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรํายต่อชีวิต ร่ํางกําย หรือสุขภําพของบุคคล
  • เพื่อใหบ้รรลุวตัถุประสงคท์ี่เกี่ยวกบักํารจดัทําเอกสํารประวตัิศําสตร์หรือจดหมํายเหตุเพื่อประโยชน์ สําธํารณะหรือเพื่อกํารศึกษําวิจยักํารจดัทําสถิติซ่ึงไดจ้ดัใหม้ีมําตรกํารป้องกนัที่เหมําะสม
  • เป็นการจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ สถิติ หรือประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ ซึ่งได้จัดให้มีมาตรการป้องกันที่เหมาะสม

4. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม การนำไปใช้ เปิดเผย การลบ หรือการทำลายข้อมูลส่วนบุคคล

  • เพื่อนำมาพัฒนาปรับปรุงด้านการตลาด และการบริการให้ตอบสนองตามความต้องการ
  • เพื่อให้สามารถเข้าถึงข้อมูล ข่าวสาร เพื่อให้ข้อมูลบริการที่ร้องขอจากมูลนิธิถันยรักษ์ฯ
  • เพื่อวัตถุประสงค์อื่นๆ ที่จะทำให้สามารถติดต่อธุรกิจได้อย่างเหมาะสมและราบรื่น
  • เพื่อดำเนินการตามสิทธิและหน้าที่ที่ระบุในสัญญาที่ทำร่วมกัน
  • เพื่อการดำเนินงานของมูลนิธิถันยรักษ์ฯ การศึกษา วิจัย หรือการจัดทำสถิติ ซึ่งเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการดำเนินงานของมูลนิธิถันยรักษ์ฯ และเพื่อปรับปรุงคุณภาพของการให้บริการให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
  • มูลนิธิถันยรักษ์ฯ อาจใช้บริการของหน่วยงานภายนอก ที่มีการจัดเก็บบันทึกการเข้าออกระบบให้บริการ กรณีที่มูลนิธิถันยรักษ์ฯ ใช้บริการหน่วยงานภายนอก หน่วยงานภายนอกจะต้องไม่กระทำการใด ๆ แตกต่างจากที่ระบุในวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม การนำไปใช้ เปิดเผย การลบ หรือการทำลายข้อมูลส่วนบุคคล เว้นแต่ได้แจ้งวัตถุประสงค์ใหม่ให้ทราบ และได้รับความยินยอม
  • กรณีที่เราต้องปฏิบัติตามข้อผูกพันตามกฎหมาย หรือข้อบังคับที่มีข้อผูกพันทางกฎหมายที่เกิดขึ้นจากกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเราอยู่ภายใต้บังคับและข้อกำหนดตามกฎหมาย เช่น กฎหมายภาษีอากร มูลนิธิถันยรักษ์ฯ จะไม่กระทำการใดๆ แตกต่างจากที่ระบุในวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม การนำไปใช้ เปิดเผย การลบ หรือการทำลายข้อมูลส่วนบุคคล เว้นแต่
    1. (1) ได้แจ้งวัตถุประสงค์ใหม่ให้แก่เจ้าของข้อมูลทราบและได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล
    2. (2) เป็นการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง

5. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

กรณีที่บุคคลมีความประสงค์จะใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล สามารถยื่นคำร้องตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่มูลนิธิถันยรักษ์ฯ กำหนด เมื่อมูลนิธิถันยรักษ์ฯ ได้รับคำร้องดังกล่าวแล้ว มูลนิธิถันยรักษ์ฯ จะรีบดำเนินการและแจ้งผลให้ทราบภายในระยะเวลาอันเหมาะสม อย่างไรก็ตาม มูลนิธิถันยรักษ์ฯ อาจปฏิเสธสิทธิได้ในกรณีที่กฎหมายกำหนด

  • บุคคลสามารถถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธิในการถอนความยินยอมโดยกฎหมายหรือสัญญาที่ให้ประโยชน์ ทั้งนี้ การถอนความยินยอมย่อมไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม การนำไปใช้ เปิดเผย การลบ หรือการทำลายข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ให้ความยินยอมไปแล้ว
  • บุคคลมีสิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของมูลนิธิถันยรักษ์ฯ หรือขอให้เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่ได้ให้ความยินยอม
  • ขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนเอง ในกรณีที่มูลนิธิถันยรักษ์ฯ ได้ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ
  • บุคคลมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม การนำไปใช้ เปิดเผย การลบ หรือการทำลายข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนเอง กรณีที่กฎหมายอนุญาตให้เก็บได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล เมื่อใดก็ได้
  • บุคคลมีสิทธิขอให้การเก็บรวบรวม การนำไปใช้ เปิดเผย การลบ หรือการทำลายข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ ในกรณีที่กฎหมายกำหนด เช่น ข้อมูลส่วนบุคคลหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาตามวัตถุประสงค์มูลนิธิถันยรักษ์ฯ
  • บุคคลมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้ ในกรณีที่กฎหมายกำหนด เช่น ข้อมูลส่วนบุคคลไม่ถูกต้องเป็นปัจจุบัน หรือผิดกฎหมาย
  • บุคคลสามารถร้องขอให้ดำเนินการปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคลของตนเองให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
  • บุคคลมีสิทธิร้องเรียน กรณี มูลนิธิถันยรักษ์ฯ ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

6. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

  • มูลนิธิถันยรักษ์ฯ จะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลไปให้บุคคลใดโดยปราศจากความยินยอมและจะเปิดเผยตามวัตถุประสงค์ที่ได้มีการแจ้งไว้
  • มูลนิธิถันยรักษ์ฯ อาจมีความจำเป็นในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล ให้แก่มูลนิธิถันยรักษ์ฯ ในเครือหรือบุคคลอื่นทั้งในและต่างประเทศ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงานของมูลนิธิถันยรักษ์ฯ และการให้บริการแก่เจ้าของข้อมูล โดยในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลดังกล่าว มูลนิธิถันยรักษ์ฯ จะดำเนินการให้บุคคลเหล่านั้นเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้เป็นความลับและไม่นำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกเหนือจากขอบเขตที่มูลนิธิถันยรักษ์ฯ ได้กำหนดไว้
  • มูลนิธิถันยรักษ์ฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลภายใต้หลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด เช่น การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่อหน่วยงานราชการ หน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานกำกับดูแล รวมถึงในกรณีที่มีการร้องขอให้เปิดเผยข้อมูลโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมาย

7. การรักษาความมั่นคงปลอดภัย

มูลนิธิถันยรักษ์ฯ ตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล โดยข้อมูลส่วนบุคคลจะถูกเก็บไว้ในรูปเอกสารภายในของมูลนิธิถันยรักษ์ฯ หรือเซิร์ฟเวอร์ที่มูลนิธิถันยรักษ์ฯ ใช้ดำเนินการหรือผู้บริการที่ได้รับสิทธิอนุญาตเท่านั้น มูลนิธิถันยรักษ์ฯ จึงกำหนดมาตรการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสม เพื่อให้สอดคล้องกับการรักษาความลับ ป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง ทำลาย ใช้ แปลง แก้ไขหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยไม่มีสิทธิหรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย นอกจากนี้ มูลนิธิถันยรักษ์ฯ ยังจำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลแก่พนักงาน ตัวแทน ผู้รับเหมา ที่ปรึกษา พนักงานชั่วคราว พนักงานอื่น ๆ และบุคคลที่สามอื่น ๆ รวมถึงบุคลากรทุกคน ที่ทำงานร่วมกับบุคคลที่สาม ที่อาจเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้อง โดยบุคคลดังกล่าว จะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดในการรักษาความลับของมูลนิธิถันยรักษ์ฯ เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม มูลนิธิถันยรักษ์ฯ ไม่อาจรับรองได้ว่าจะไม่มีความบกพร่องหรือความผิดพลาดใด ๆ เกิดขึ้นจากการดำเนินการตามนโยบายดังกล่าว ดังนั้น เราจึงขอสงวนสิทธิ์ที่จะปฏิเสธความรับผิดในความเสียหายหรือสูญหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นในทุกกรณี

8. ระยะเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

มูลนิธิถันยรักษ์ฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้ตามระยะเวลาเท่าที่จำเป็น เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่มูลนิธิถันยรักษ์ฯ เก็บรวบรวมไว้ รวมถึงเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดทางกฎหมายด้านการบัญชีหรือรายงานใด ๆ ยกเว้นกรณีที่กฎหมายอนุญาตให้เก็บได้ในระยะเวลาที่นานกว่านั้น

9. บุคคลหรือหน่วยงานซึ่งมูลนิธิถันยรักษ์ฯ อาจแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคล

มูลนิธิถันยรักษ์ฯ อาจแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลกับบุคคลอื่นหรือหน่วยงานอื่น ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น คู่ค้า ซัพพลายเออร์ ตัวแทน ผู้รับเหมา ผู้รับเหมาช่วง มูลนิธิถันยรักษ์ฯ ในเครือกิจการ หรือเครือธุรกิจเดียวกัน พันธมิตรทางธุรกิจ บุคคลภายนอก ซึ่งเป็นผู้ให้บริการ ผู้สอบบัญชีและนักบัญชี เจ้าหน้าที่สรรพากร เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง หน่วยงานของรัฐ หรือบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง เข้าถึงหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็น และเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ การปฏิบัติตามข้อผูกพันทางสัญญา การดำเนินการทางกฎหมาย ซึ่งเป็นไปตามอำนาจหน้าที่ของมูลนิธิถันยรักษ์ฯ

มูลนิธิถันยรักษ์ฯ จะทำให้มั่นใจว่าบุคคลที่สามดังกล่าว รับทราบและดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย รวมถึงการรักษาความลับ และการปกป้องข้อมูลตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ มูลนิธิถันยรักษ์ฯ ไม่สามารถรับรองการดำเนินการของบุคคลที่สามได้ และไม่รับผิดชอบใด ๆ หากบุคคลที่สามไม่สามารถปฏิบัติหรือดำเนินการใด ๆ ตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

10. คุกกี้

มูลนิธิถันยรักษ์ฯ เก็บรวบรวมและใช้คุกกี้ รวมถึงเทคโนโลยีอื่นในลักษณะเดียวกัน ในเว็บไซต์ที่อยู่ภายใต้ความดูแลของมูลนิธิถันยรักษ์ฯ เช่น https://www.thanyarak.or.th หรือบนอุปกรณ์ของท่านตามแต่บริการที่ท่านใช้งาน ทั้งนี้ เพื่อการดำเนินการด้านความปลอดภัยในการให้บริการของมูลนิธิถันยรักษ์ฯ และเพื่อให้ท่านซึ่งเป็นผู้ใช้งานได้รับความสะดวกและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานบริการของมูลนิธิถันยรักษ์ฯ และข้อมูลเหล่านี้ จะถูกนำไปเพื่อปรับปรุงเว็บไซต์ของมูลนิธิถันยรักษ์ฯ ให้ตรงกับความต้องการของท่านมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ท่านสามารถจัดการและปรับตั้งค่าเริ่มต้นของคุกกี้ได้ โดยการบล็อกคุกกี้จากเบราว์เซอร์ที่ท่านใช้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ มูลนิธิถันยรักษ์ฯ เพื่อเรียนรู้วิธีการบล็อก Chrome , Internet Explorer , Safari , Firefox

11. กรณีถอนความยินยอมหรือไม่สะดวกให้ความยินยอม

บุคคลอาจถอนความยินยอมได้ตามสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ข้างต้น โดยมูลนิธิถันยรักษ์ฯ อาจขอทราบถึงเหตุผลแห่งการนั้น และการถอนความยินยอมจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม การนำไปใช้ เปิดเผย การลบ หรือการทำลายข้อมูลส่วนบุคคล ที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ความยินยอมไปแล้วก่อนหน้านั้น ในกรณีที่ประสงค์จะถอนความยินยอม มูลนิธิถันยรักษ์ฯ อาจบริการได้ในระดับที่จำกัด รวมถึงอาจไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาได้

บุคคลอาจไม่สะดวกให้ความยินยอม กรณีที่มูลนิธิถันยรักษ์ฯ จำเป็นต้องรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ตามกฎหมาย หรือภายใต้สัญญาที่เรามี แต่ไม่สามารถให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นนั้นได้ มูลนิธิถันยรักษ์ฯ อาจบริการได้ในระดับที่จำกัด รวมถึงอาจไม่สามารถทำสัญญาได้ และมูลนิธิถันยรักษ์ฯ อาจต้องยกเลิกข้อผูกพันตามสัญญาทั้งหมด

12. การเปลี่ยนแปลงนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล

มูลนิธิถันยรักษ์ฯ อาจปรับปรุงนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลเป็นครั้งคราว เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของการดำเนินงาน หากภายหลังมีการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ หรือเพื่อดำเนินการอื่นนอกเหนือจากวัตถุประสงค์ตามที่ได้ระบุไว้ในการเก็บรวบรวม การนำไปใช้ เปิดเผย การลบ หรือการทำลายข้อมูลส่วนบุคคล มูลนิธิถันยรักษ์ฯ จะแจ้งให้ทราบและขอความยินยอม และจัดให้มีบันทึกการแก้ไขเพิ่มเติมไว้เป็นหลักฐาน

13. ช่องทางติดต่อ ศูนย์ถันยรักษ์ มูลนิธิถันยรักษ์ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี

ศูนย์ถันยรักษ์ มูลนิธิถันยรักษ์ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ชั้น 7 อาคาร 100 ปี สมเด็จพระศรีนครินทร์ โรงพยาบาลศิริราช แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ 10700

โทรศัพท์ 02-4115657-9

E-mail : info@thanyarak.com